Skip links

สารจากผู้อำนวยการ

การบริหารงานจะเป็นไปด้วยความซื่อสัตย์
สุจริต ยุติธรรม ชัดเจน โปร่งใส ตรวจสอบได้
และให้ชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหาร
ใช้หลัก “บวร” คือ บ้าน วัด โรงเรียน
ร่วมมือกัน สร้างสรรค์โรงเรียนและชุมชน
ให้เจริญก้าวหน้าและเข็มแข็ง

นายราเมศน์ โสมแสน
ผู้อำนวยการโรงเรียนวชิรธรรมสาธิต
๙ ตุลาคม ๒๕๖๖

หลักการบริหารจัดการสถานศึกษา

ดำเนินการบริหารจัดการสถานศึกษาโดยใช้หลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมือง ที่ดี (GG Framework) ทั้ง 4 หลักการสำคัญ และ10 หลักการย่อย ของสำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ซึ่งประกอบด้วย

๑. การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ (New Public Management) ประกอบด้วย

๑.๑ ประสิทธิภาพ (Efficiency) หมายถึง ในการปฏิบัติราชการต้องใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด เกิดผลิตภาพที่คุ้มค่าต่อการลงทุนและบังเกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม ทั้งนี้ ต้องมีการลดขั้นตอน และระยะเวลาในการปฏิบัติงานเพื่ออำนวยความสะดวก และลดภาระค่าใช้จ่าย ตลอดจนยกเลิก ภารกิจที่ล้าสมัยและไม่มีความจำเป็น

๑.๒ ประสิทธิผล (Effectiveness) หมายถึง ในการปฏิบัติราชการต้องมีวิสัยทัศน์เชิง ยุทธศาสตร์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ปฏิบัติหน้าที่ ตามพันธกิจให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร มีการวางเป้าหมายการปฏิบัติงานที่ชัดเจนและอยู่ใน ระดับที่ตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้รับบริการ สร้างกระบวนการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบและ มีมาตรฐาน มีการจัดการความเสี่ยงและมุ่งเน้นผลการปฏิบัติงานเป็นเลิศ รวมถึงมีการติดตาม ประเมินผลและพัฒนาปรับปรุงการปฏิบัติงานให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

๑.๓ การตอบสนอง (Responsiveness) หมายถึง ในการปฏิบัติราชการต้องสามารถ ให้บริการได้อย่างมีคุณภาพ สามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด สร้างความเชื่อมั่น ไว้วางใจ รวมถึงตอบสนองตามความคาดหวัง/ความต้องการของผู้รับบริการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ที่มีความหลากหลายและมีความแตกต่างกันได้อย่างเหมาะสม

๒. ค่านิยมประชาธิปไตย (Democratic Value) ประกอบด้วย

๒.๑ ภาระรับผิดชอบ/สามารถตรวจสอบได้ (Accountability) หมายถึง ในการปฏิบัติ ราชการต้องสามารถตอบคำถามและชี้แจงได้เมื่อมีข้อสงสัย รวมทั้งต้องมีการจัดวางระบบการรายงาน ความก้าวหน้าและผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ต่อสาธารณะ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบและการให้คุณให้โทษ ตลอดจนมีการจัดเตรียมระบบการแก้ไขหรือบรรเทาปัญหาและผลกระทบใด ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น

๒.๒ เปิดเผย/โปร่งใส (Transparency) หมายถึง ในการปฏิบัติราชการต้องปฏิบัติงาน ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตรงไปตรงมา รวมทั้งต้องมีการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นและเชื่อถือได้ ให้ผู้รับบริการได้รับทราบอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนวางระบบให้การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารดังกล่าว เป็นไปโดยง่าย

๒.๓ หลักนิติธรรม (Rule of Law) หมายถึง ในการปฏิบัติราชการต้องใช้อำนาจของ กฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ ในการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัดด้วยความเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียฝ่ายต่าง ๆ

๒.๔ ความเสมอภาค (Equity) หมายถึง ในการปฏิบัติราชการต้องให้บริการอย่างเท่าเทียม กัน ไม่มีการแบ่งแยกด้านชายหญิง ถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจและสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม และอื่น ๆ อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงโอกาสความเท่าเทียมกันของการเข้าถึงบริการสาธารณะของกลุ่มบุคคล ผู้ด้อยโอกาสในสังคมด้วย 

๓. ประชารัฐ (Participatory State) ประกอบด้วย

๓.๑ การมีส่วนร่วม/การพยายามแสวงหาฉันทามติ (Participation/Consensus Oriented) หมายถึง ในการปฏิบัติราชการต้องรับฟังความคิดเห็นของผู้รับบริการ รวมทั้งเปิดให้ ประชาชนมีส่วนร่วมในการรับรู้ เรียนรู้ ทำความเข้าใจ ร่วมแสดงทัศนะ ร่วมเสนอปัญหา/ประเด็นที่ สำคัญที่เกี่ยวข้องร่วมคิดแก้ไขปัญหา ร่วมในกระบวนการตัดสินใจและการดำเนินงานและร่วมตรวจสอบ ผลการปฏิบัติงาน ทั้งนี้ ต้องมีความพยายามในการแสวงหาฉันทามติหรือข้อตกลงร่วมกันระหว่าง กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจะต้องไม่มีข้อคัดค้านที่หา ข้อยุติไม่ได้ในประเด็นที่สำคัญ

๓.๒ การกระจายอำนาจ (Decentralization) หมายถึง ในการปฏิบัติราชการควรมี การมอบอำนาจและกระจายความรับผิดชอบในการตัดสินใจและการดำเนินการให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน ในระดับต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม

๔. ความรับผิดชอบทางการบริหาร (Administrative Responsibility) ประกอบด้วย

คุณธรรม/จริยธรรม (Morality/Ethics) หมายถึง ในการปฏิบัติราชการต้องมีจิตสำนึก ความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปอย่างมีศีลธรรม คุณธรรม และตรงตามความคาดหวัง ของสังคม

นโยบายและแนวทางการพัฒนา มีดังนี้

๑. สร้างความสมัครสมานสามัคคี และความเป็นน้ำหนึ่งใจด้วยกัน (โดยเน้นหลักธรรม พรหมวิหาร ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา และการให้อภัย ตลอดจนมองโลกในแง่ดี)

๒. สร้างจิตสำนึกของคนดี มีจิตสาธารณะ พร้อมที่จะบำเพ็ญตนเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม (มีหัวใจบริการ)

๓. พัฒนาคุณธรรม จริยธรรม จรรยามารยาท และระเบียบวินัยแก่ผู้เรียนและตนเอง เพราะ เชื่อว่าผู้ที่มีระเบียบวินัยจะง่ายต่อการเรียนรู้และพัฒนาได้ (ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน)

๔. พัฒนาให้ผู้เรียนสามารถอ่านออก เขียนได้ อ่านคล่อง เขียนคล่อง และส่งเสริมให้มีนิสัย รักการอ่าน รักการเรียนรู้ ตลอดจนแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเอง และมีความฉลาดในการเลือกสื่อ ที่เป็นประโยชน์แก่ตน

๕. พัฒนาบุคลากรทางการศึกษาและผู้เรียน ให้มีโลกทัศน์ที่กว้างไกล สามารถเป็นผู้นำ การเปลี่ยนแปลง และพัฒนาให้โรงเรียนมีคุณภาพ มาตรฐานที่สูงยิ่ง ๆ ขึ้นไป

๖. ส่งเสริมทักษะทางวิชาการแก่นักเรียน โดยมุ่งให้ผู้เรียนได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพของตน และค้นพบความสำเร็จได้ด้วยตนเอง ส่งเสริม สนับสนุนให้เข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการ ทั้งระดับ โรงเรียน ตำบล อำเภอ เขตพื้นที่การศึกษา จังหวัด และระดับที่สูงขึ้น จัดกิจกรรมทางวิชาการภายใน โรงเรียนเพื่อเปิดโอกาสให้ฝึกฝนตนเองให้เข็มแข็งก่อนลงสู่สนามแข่งขันภายนอก

๗. พัฒนาห้องสมุดพร้อมระบบการบริหารจัดการ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ จัดให้มีการอำนวย ความสะดวกและให้บริการด้วยหัวใจ

๘. พัฒนาห้องคอมพิวเตอร์ และระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ให้สามารถใช้งานได้ดี มีประสิทธิภาพ และใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ แสวงหาความรู้ให้เท่าทันเทคโนโลยี ทันยุคสมัย ทันเหตุการณ์

๙. สร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้มีเวทีในการแสดงออกเชิงสร้างสรรค์ และพัฒนาศักยภาพของตน ในด้านที่ถนัดและสนใจ ตลอดจนด้านที่ควรส่งเสริม สนับสนุน ให้มีในตัวผู้เรียนทุกคน เช่น การแสดง ต่าง ๆ การให้บริการแก่ผู้มีติดต่อ การเสียสละ การกล้าแสดงออกเชิงสร้างสรรค์ การประหยัดอดออม การพูดหน้าเสาธง การพูดประชาสัมพันธ์เสียงตามสายทั้งในโรงเรียนและชุมชน เป็นต้น

๑๐. การให้บริการทางการศึกษาและอื่น ๆ แก่ผู้เรียนและชุมชน ด้วยใจบริการ เช่น การให้บริการใช้อาคารสถานที่ การให้บริการแหล่งเรียนรู้ห้องสมุด คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต เป็นต้น

๑๑. ส่งเสริมด้านสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยแก่ผู้เรียน ให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และเป็นผู้ที่สามารถครองตนและอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างปกติสุข

๑๒. ปรับปรุงภูมิทัศน์และสร้างสิ่งแวดล้อมภายใน ให้ร่มรื่น สะอาด น่าดู น่าอยู่ น่าเรียน

๑๓. พัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในให้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารการศึกษา ตลอดจนขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

การปฏิบัติหน้าที่ของครูและบุคลากรทางการศึกษา

การปฏิบัติหน้าที่ ให้เป็นไปด้วยความสำนึกในความรับผิดชอบของความเป็นครูมืออาชีพ โดยยึดแนวปฏิบัติร่วมกัน คือ

๑) ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ อดทน อดกลั้น

๒) ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสัตย์สุจริต

๓) ปฏิบัติหน้าที่ด้วยหัวใจบริการ ประสานประโยชน์

๔) เป็นแบบอย่างที่ดี มีเหตุผล

ทั้งนี้ ให้แต่ละกลุ่มบริหาร แต่ละงาน และแต่ละคน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างกัลยาณมิตร ให้ความรัก ความเมตตา ดูแล เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะหลักหัวใจบริการ คือ มาตรฐานการทำงาน ของเรา พร้อมทั้งปฏิบัติต่อผู้รับบริการอย่างเสมอภาคและเที่ยงธรรม ตามหลักธรรมาภิบาล ตลอดจน ให้ระลึกอยู่เสมอว่า “เราจะร่วมกันสร้างสรรค์โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต” นอกจากนี้ ขอให้แต่ละกลุ่มบริหาร แต่ละงาน และแต่ละคน ออกแบบ ปรับปรุง และพัฒนา การทำงานภายในฝ่ายของตนให้มีความคล่องตัว มีประสิทธิภาพ และสร้างมาตรฐานในการปฏิบัติงาน ไว้เป็นแนวทางในการปรับใช้ให้เหมาะสมต่อไป

จุดเน้นการบริหาร

แนวนโยบายที่แต่ละงาน ฝ่าย และบุคลากรทุกคนจะต้องปฏิบัติร่วมกัน เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียน “ประพฤติดี มีความร้ และอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข” ดังนี้

  • ดูแล ห่วงใย ใส่ใจ ด้วยรัก (ตามแนวทางระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน)
  • ปลอด ๐ ร มส และนักเรียนจบการศึกษา ร้อยละ ๑๐๐
  • สะอาด ปลอดภัย ใส่ใจบริการ
  • ชัดเจน โปร่งใส ตรวจสอบได้

“สานงานต่อ ก่องานสร้างสรรค์ใหม่ ด้วยหัวใจบริการ”
เพื่อพัฒนาโรงเรียนให้เป็น “โรงเรียนคุณภาพ บริการด้วยหัวใจ ไม่ทิ้งใครคนใดไว้ข้างหลัง”
โดยมีเป้าหมายเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้เรียนเป็นสำคัญ